เช่นเดียวกับที่นาฬิกาถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อให้เรามองเห็นการเคลื่อนผ่านของเวลาที่มองไม่เห็น เราสามารถเห็นการพิพากษาของการไปสวรรค์หรือนรกในโลกฝ่ายวิญญาณที่ไม่ประจักษ์แก่ตาผ่านพระคัมภีร์ ครั้นพระเยซูผู้เสด็จมาเป็นความสว่าง ทรงเสด็จมาตามแบบอย่างของเมลคีเซเดค บรรดาสมาชิกคริสตจักรของพระเจ้าจึงถือรักษาเทศกาลปัสกาแห่งพันธสัญญาใหม่และปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์
2,000 ปีก่อน ผู้คนถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือผู้ที่เชื่อพระเยซูผู้เสด็จมาในสภาพมนุษย์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดกับผู้ที่ไม่เชื่อ และในสมัยพระวิญญาณบริสุทธิ์ มีผู้ที่เชื่อในพระอันซังโฮงและพระมารดาผู้เสด็จมาเป็นพระวิญญาณและเจ้าสาวกับผู้ที่ไม่เชื่อ พระคัมภีร์กล่าวว่าการพิพากษาของพระเจ้าได้ถูกกำหนดไว้แล้วตามความเชื่อเหล่านี้
หลักการพิพากษามีอย่างนี้ คือความสว่างได้เข้ามาในโลกแล้ว แต่มนุษย์ได้รักความมืดมากกว่ารักความสว่าง เพราะกิจการของเขาเลวทราม เพราะทุกคนที่ประพฤติชั่วก็เกลียดความสว่าง และไม่มาถึงความสว่าง ด้วยกลัวว่าการกระทำของตนจะปรากฏ แต่ผู้ที่ประพฤติชอบก็มาสู่ความสว่าง เพื่อให้เห็นว่า การกระทำของเขานั้นได้กระทำโดยพึ่งพระเจ้า
ยอห์น 3:19–21
นี่เป็นข้อความที่เราได้ยินจากพระองค์ และบอกแก่ท่านทั้งหลาย คือว่าพระเจ้าทรงเป็นความสว่าง และความมืดในพระองค์ไม่มีเลย
1 ยอห์น 1:5
ตู้ ปณ.119, ที่ทำการไปรษณีย์บุนดัง ซองนัม, บุนดัง-กู, ซองนัม-ซี, คยองกี-โด, เกาหลีใต้
โทร 031-738-5999 แฟกซ์ 031-738-5998
สมัชชาใหญ่: ซูแน-โล 50, บุนดัง-กู, ซองนัม-ซี, คย็องกี-โด, เกาหลีใต้
คริสตจักรตัวแทน: พันกิโยย็อค-โล 35, บุนดัง-กู, ซองนัม-ซี, คย็องกี-โด, เกาหลีใต้
ⓒ World Mission Society Church of God เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ทั้งหมด นโยบายความเป็นส่วนตัว